CTH โบกมือลา กสทช. ไร้หนทางเยียวยาผู้บริโภค
CTH โบกมือลา กสทช. ไร้หนทางเยียวยาผู้บริโภค
CTH ผู้ให้บริการดาวเทียมที่เคยคึกคักด้วยการประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอลด้วยราคาสูงลิ่ว ใครจะคิดว่าจะมีวันนี้ของ CTH ที่เคยคาดว่าจะมาเทียบรัศมียักษ์ใหญ่อย่าง ทรูวิชั่นส์ กลับกลายเป็นต้องปิดตัวลงไปอย่างน่าเสียดาย
ผลพวงของการเติบโตอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เป็นการรวมตัวกันของบรรดาเคเบิ้ลท้องถิ่นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในลิขสิทธิ์รายการ จนมาถึงวันที่ผงาดเป็นผู้ให้บริการทีวีบอกรับสมาชิกชื่อดัง และมาถึงวันที่ต้องปิดตัวลง
ล่าสุดนอกจากจะลอยแพผู้บริโภคที่ซื้อกล่องพร้อมจ่ายค่ามัดจำ รวมไปถึงกลุ่มสมาชิกที่ซื้อแพคเกจยาวเป็นเวลาหลายเดือนและจ่ายล่วงหน้าไปแล้ว ถึงคราวพนักงานก็ต้องถูกเลิกจ้างไปอีกราว 100 ชีวิต สิ้นสุดชีวิตการทำงานกับ CTH จากที่เคยผงาดด้วยจำนวนพนักงานกว่าครึ่งพัน
ทั้งนี้ CTH ประกาศยุติการให้บริการนับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2559 นี้เป็นต้นไป ต่อมามีคำสั่งเลิกจ้างพนักงานเกือบทั้งหมดตั้งแต่ผู้บริหารยันพนักงานระดับล่างเกือบ 100 คน โดยให้ปฏิบัติงานเป็นวันสุดท้ายคือวันที่ 31 สิงหาคม 2559 นี้ พร้อมจ่ายค่าชดเชยต่างๆตามกฏหมาย โดยจะมีพนักงานบางส่วนยังคงอยู่อีกประมาณ 3 เดือนเพื่อสะสางปัญหาค้างคาต่างๆ
ด้าน กสทช. ได้แสดงความคิดเห็นถึงการลอยแพสมาชิกเกือบ 50,000 รายว่า ทาง กสทช. ทำได้เพียงแค่การขึ้นบัญชีดำกับ บจม. ซีทีเอช เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างไม่ให้ผู้ประกอบทำผิดและเอาเปรียบผู้บริโภค เช่นเดียวกับหลายองค์กรในอดีตที่ปิดกิจการทันทีโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้บริโภค และ กสทช. ทำได้แค่ตักเตือนซึ่งถือว่าเป็นกฏข้อบังคับที่อ่อนมาก
แหม่ กสทช. ทำได้แค่ขึ้นแบลคลิสท์ ก็เหมือนบริษัทล้มละลายไปแล้ว วันไหนเขาอยากจะทำกิจการนี้ขึ้นมาใหม่ เขาก็หาญาติๆมาตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ได้อีก ความจริงต้องให้เขาวางเงินประกันกรณีเกิดความเสียหาย ผู้ประกอบการจะได้ไม่ทิ้งลูกค้าทันทีที่มีปัญหา ค่าอะไรต่างๆที่เก็บไปแล้วล่วงหน้าจะให้ผู้บริโภคฟ้องร้องก็คงไม่มีคนไหนเสียเวลาทำหรอก
ความจริงกรณีแบบนี้ ควรมีหน่วยงานกลางอย่าง สคบ. ที่ต้องฟ้องร้องต่อบริษัทให้รับผิดชอบความเสียหายแทนประชาชน แล้วนำค่าเสียหายมาแบ่งเฉลี่ยกันไป ไม่งั้นใครๆก็ตั้งบริษัทมา ให้บริการไปซักพัก พอทุกอย่างไม่เป็นไปตามคาด ก็ปิดตัวทิ้งชาวบ้านตาดำๆไปดื้อ
อยากให้ทาง กสทช. ถือเอากรณีของ CTH เป็นบทเรียนว่า กิจการใดก็ตามที่มีการเก็บเงินล่วงหน้าค่าอุปกรณ์เยอะๆ ควรจะให้เงินส่วนนี้ไปอยู่บนระบบ ESCROW หรืออย่างไรก็แล้วแต่ อย่างน้อยผู้เดือดร้อนจะได้เงินค่าประกันอุปกรณ์ต่างๆคืนเวลาบริษัทปิดกิจการ
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.