Tweet

เข้าสู่ปีที่สองของทีวีดิจิตอล ต่างแข่งดุเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด

หากนับจากวันที่เริ่มมีการทดลองออกอากาศจนถึงตอนนี้ก็ถือว่าครบ 1 ปี ทีวีดิจิตอลช่องต่างๆ ก็เริ่มจับทิศทางตัวเองได้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร คู่แข่งทั้งช่องเก่าช่องใหม่ต่างก็แย่งชิงตลาดคนดูกันอย่างดุเดือด การปรับตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับความถนัด และเพื่อความอยู่รอดของช่องต่างๆ ในช่วงปีที่สองจึงถือเป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

โดยภาพรวมแล้วในปีที่ผ่านมาถือเป็นการปรับตัวอย่างรุนแรงของวงการโทรทัศน์บ้านเรา ที่เดิมเป็นระบบสัมปทานผูกขาดอยู่แค่ไม่กี่ช่อง ประเภทที่ว่าแม้คนแก่คนเฒ่าจะความจำไม่ดีแต่แทบทุกคนจะรู้ว่ามีช่องทีวีอะไรบ้าง กลับกลายมาเป็นระบบประมูลใบอนุญาตทำให้ตูมเดียวมีช่องทีวีเพิ่มขึ้นมาทั้งสิ้น 20 กว่าช่องที่ทำเอาผู้ชมค่อนประเทศปรับตัวกันแทบไม่ค่อยทัน

ตัวเลขช่องมีการเรียงใหม่ตามรูปแบบของการประมูล ทำให้ช่องที่ได้รับความนิยมเดิมมีตัวเลขที่เปลี่ยนไปมาก ชาวบ้านต่างก็บ่นกันเป็นเสียงเดียวกันว่าหาช่องที่เคยดูไม่เจอ บ้างก็โทษว่าเพราะ คสช. ปิดช่องทีวีต่างๆ ซะหมด จนบริษัทดาวเทียมได้โอกาสขายกล่องใหม่กันเป็นว่าเล่น เพราะชาวบ้านนึกว่ากล่องเก่าเสียดูไม่ได้ แต่บ้านอื่นๆกลับดูได้เป็นงั้นไป

ปัญหาเรื่องราคาคูปองว่าจะ 1,000 บาท หรือ 690 บาท ก็เหมือนจะเป็นเรื่องยืดเยื้อเสียเวลากันมาก แถมกรรมการ กสท. บางท่านออกมาผลักดันสุดขั้วกับการจะแจกคูปองให้กับกล่องดาวเทียมด้วย สุดท้ายจบลงที่จดหมายจาก สตง. ฉบับเดียว ที่ทำให้กระบวนการแจกคูปองทีวีดิจิตอลเริ่มต้นได้ซะที

นอกจากปัญหาในฝั่งการรับชมแล้ว ในปัญหาฝั่งเครือข่ายก็ใช่ย่อย จนถึงตอนนี้ MUX PRD ของกรมประชาสัมพันธ์ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มได้เมื่อไหร่ ดีที่ว่า MUX MCOT ได้พยายามจนวินาทีสุดท้ายเพื่อให้สามารถติดตั้งเครื่องส่งได้ตามกำหนดของ กสทช.

ประเด็นปัญหาใหญ่ๆ ที่ผ่านมาอีกอย่างหนึ่งก็เป็นเรื่องของการออกอากาศคู่ขนานของช่อง 3 ที่ตอนนั้นมีทีท่าว่าจะยื้อกันยาว ทำให้บรรดาช่องทีวีดิจิตอลต่างก็อกสั่นขวัญแขวนกันไปทั่วด้วยเกรงว่าคนจะยังยึดติดกับระบบอนาลอกเพราะต้องการดูช่อง 3 อนาลอก แล้วจะทำให้การผลักดันทีวีดิจิตอลเป็นไปได้ยากแต่สุดท้ายด้วยมติของศาลปกครองที่ทำให้ทีวีดิจิตอลเป็นมาได้จนถึงทุกวันนี้

ผ่านปีแรกของการผลักดันทีวีดิจิตอลมาได้กันอย่างทุลักทุเล กว่าจะเริ่มแจกคูปองทีวีดิจิตอลได้ก็เป็นเดือนตุลาคม ช้ากว่าแผนไปหลายเดือน ผลประกอบการของช่องทีวีดิจิตอลต่างๆ ก็แทบจะไปไม่รอด มีการขอยืดจ่ายค่าสัมปทานกันออกไปซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แต่เกมส์การแย่งชิงคนดูก็ต้องทำไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นช่องเก่าหรือช่องใหม่

ละครหลังข่าวถือว่าเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนดูได้อย่างดีไม่ว่าจะเป็นยุคไหนๆ คาดว่าปี 2558 นี้ก็น่าจะออกมาในแนวโน้มเดียวกัน แต่ละช่องทีวีต่างก็พยายามออกอากาศละครเพื่อเรียกเรตติ้งกันอย่างดุเดือด เรื่องนี้ทั้งช่อง 3 และช่อง 7 เดิมต่างก็ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ไม่แพ้เนื้อหาด้านการข่าวที่สามารถตรึงสายตาคนดูได้เป็นอย่างดีในหลายๆช่อง

จะว่าไปแล้วในช่วงปีที่แล้ว เราได้เห็นมิติใหม่ของการนำเสนอข่าว มีทั้งข่าวเช้า ข่าวเที่ยง ข่าวเย็น ข่าวดึก ข่าวด่วน ข่าวแทรก พร้อมลูกเล่น Special Effect ด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิคที่เทียบเท่าข่องข่าวของโลกก็ได้เห็นกันมาแล้ว ข่าวของช่อง ThairathTV หลายๆเรื่องเรียกความประทับใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดีสมกับพื้นฐานด้านการข่าวที่มีมาตั้งแต่เดิม

เกมส์โชว์ก็ถือเป็นตัวเรียกเรตติ้งได้ดีเช่นกันซึ่งจะพบว่าหลายๆ ช่องต่างก็นำเอาเกมส์โชว์จากต่างประเทศมาปรับปรุงดัดแปลงใส่กติกาแปลกใหม่เรียกเสียงฮือฮากันได้อย่างล้นหลาม ช่อง Workpoint ที่จองหมายเลข 1 ของกล่องดาวเทียมบางกล่อง ก็ทำเรตติ้งให้ติดตาผู้ชมได้ตามสไตล์ครีเอทีพของเขาอยู่แล้ว เรียกว่าได้ว่าอยากดูเกมส์โชว์เด็ดๆ ก็ต้องไปช่องนี้

ส่วนช่องใหม่ๆ ที่แทรกเรตติ้งออกมาอย่างน่าสนใจอย่างช่อง 8 หรือช่องโมโน 29 ก็ถือว่าน่ายินดี อันเป็นการสร้างทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้ชมที่ต้องการหลีกหนีความจำเจกับช่องทีวีแบบเดิมๆในอดีต

แต่ท้ายสุดแล้วช่องไหนจะอยู่ ช่องไหนจะไป ตัวเนื้อหาที่นำเสนอและผู้ชมอย่างเราๆนี่แหละครับ ที่จะเป็นผู้ตัดสิน หากท่านอยากให้ช่องทีวีดิจิตอลอยู่คู่กับเราไปหลายๆช่อง เพื่อเพิ่มทางเลือกแล้วละก็ อย่าลืมยกรีโมทมากดดูช่องอื่นๆ ในเวลาไพร์มไทม์กันด้วยนะครับ

ภาพประกอบ จาก posttoday.com