รีวิวกล่องดาวเทียม GMM mini
รีวิวกล่องดาวเทียม GMM mini
นับเป็นกล่องดาวเทียมกล่องแรกที่จะทำการรีวิวนะครับ เพราะที่ผ่านมาจะเน้นกล่องทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินซะมากกว่า ด้วยเพราะการเปลี่ยนผ่านจากทีวีระบบอนาลอกเป็นทีวีดิจิตอลนั้นจะหมายถึงคลื่นความถี่ภาคพื้นดิน ส่วนทีวีดาวเทียมนั้นถือเป็นทีวีดิจิตอลอยู่แล้ว และผลการสำรวจพบว่าประชากรส่วนใหญ่นั้นรับชมทีวีผ่านดาวเทียมมากกว่าทีวีภาคพื้นดินเสียอีก
เหตุผลในการติดตั้งจานดาวเทียมก็เพราะต้องการดูทีวีที่คมชัดไม่มีเม็ดฝน โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลจากเสาส่งหรืออับสัญญาณ แถมพ่วงด้วยช่องทีวีที่มีจำนวนมากขึ้น ความนิยมของทีวีผ่านจานดาวเทียมจึงมีมากขึ้น
แต่หลายๆ บ้านก็คงยังต้องพึ่งทีวีดาวเทียมกันอยู่เพราะทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินยังไปไม่ถึง หรือแม้จะไปถึงก็อาจจะไม่สะดวกในการที่จะติดตั้งแผงก้างปลาใหม่เพราะเดิมก็ดูดาวเทียมอยู่แล้ว ทีวีดิจิตอลตากกฏ Must Carry ก็มีให้ดูผ่านจานดาวเทียมอย่างจุใจอีกด้วย แม้ว่าช่วงนี้ (กรกฏาคม 57) ช่อง HD อาจจะยังไม่สามารถรับชมได้ก็ตาม
กลับมาที่การรีวิวกล่องดาวเทียม GMM mini กันต่อนะครับ เริ่มจากตัวกล่องบรรจุภัณฑ์
กล่อง GMM mini ที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันจะเป็นกล่องพื้นขาว พร้อมแถบสีสดใสด้านซ้ายเป็นโทนเขียว ด้านขวาเป็นโทนส้ม ตรงกลางกล่องด้านบนจะระบุข้อความโลโก้ภาษาอังกฤษ G-MM mini พร้อมข้อความภาษาไทย จีเอ็มเอ็ม มินิ ล่างลงมาก็จะเป็นรูปตัว set top box พร้อมรีโมท ส่วนด้านล่างสุดจะเป็นไอคอนพร้อมข้อความระบุคุณสมบัติของตัวกล่อง
ซ้ายสุดไอคอนสีฟ้าเป็นรูปจานทั้ง C-Band และ KU Band พร้อมระบุข้อความ รองรับจานทุกชนิดทั้ง C-Band และ KU-Band ไอคอนถัดมาเป็นรูปตัวอักษร OTA ระบุข้อความ ระบบเรียงช่อง OTA ช่องเดิมไม่หายช่องใหม่เพิ่มอัตโนมัติ ไอคอนต่อมาเป็นรูปรีโมท พร้อมข้อความ รีโมทคอนโทรลอัจฉริยะ แบ่งกลุ่มรายการใช้งานง่าย และไอคอนสุดท้ายเป็นอักษรตัวเลข 220 พร้อมข้อความ ชมได้ทันทีกว่า 220 ช่อง (ในระบบ C-Band)
ข้างกล่องด้านนี้จะเป็นบาร์โค้ด ตรา มอก. หมายเลข TIS 1195-2536 และข้อมูลสินค้า โดยรายละเอียดข้อมูลสินค้ามีดังนี้
ชื่อสินค้า : กล่อง GMM mini
ประเภทสินค้า : กล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม
วิธีใช้ : ดูจากคู่มือการใช้งานภายในกล่อง
ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย : บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด 50 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคอลงเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม 10110
ประเทศผู้ผลิต : จีน
จำนวน : 1 ชิ้น
วันที่ผลิต : กรกฏาคม 2555
ราคา : ______ บาท
ด้านก้นกล่องจะมีข้อมูลมากมายซึ่งจะเป็นช่องที่สามารถดูได้ (ในตอนนั้น) โดยด้านบนสุดในกรอบสีส้มจะมีข้อความ GMM Z HITS ช่องรวมสุดยอดรายการฮิต ที่คุณจะได้พบกับความมันส์ความบันเทิงสุดประทับใจตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อความสีดำล่างลงมาระบุ ชมได้ครบมากกว่า 220 ช่องในระบบ C Band และมากกว่า 80 ช่องในระบบ KU Band*
ส่วนตรงกลางๆจะมีการแยกหมวดหมู่ช่องที่รับชมได้ทั้ง เพลง ภาพยนต์ กีฬา การ์ตูน ข่าว และวาไรตี้ ด้านล่างขวาก็จะมีข้อความระบุ รองรับจานทุกชนิดทั้ง KU Band และ C Band ติดตั้งง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง โดยมีรูปกราฟฟิคอธิบาย
ด้านซ้าย
– ติดตั้งกล่อง GMM mini เป็นกล่องหลักภายในบ้านหรือแทนกล่องเดิมที่มีอยู่
ด้านขวา
– ติดตั้งกล่อง GMM mini เพิ่มเป็นจุดที่ 2 หรือจุดอื่นๆในบ้าน (สูงสุดไม่เกิน 4 จุด เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสิรม)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และบริการหลังการขาย Call Center 02 841 8888
เปิดฝากล่องบรรจุภัณฑ์จะพบตัวกล่อง set top box ห่ออยู่ในถุงกันกระแทกอย่างดี มีรีโมท พร้อมถ่าน AAA 2 ก้อน และสายไฟ AV แบบสามสายมาให้ด้วย
ด้านหน้ากล่อง set top box ด้านซ้ายบนจะมีโลโก้ mini ด้านล่างจะเป็นปุ่ม Power ไว้ปิดเปิด ถัดมาเป็นช่องรับสัญญาณจากรีโมท ไฟแสดงสถานะเครื่อง และแผงไฟ LED สำหรับแสดงหมายเลขช่อง จากนั้นก็จะมีปุ่มกดต่างๆ ทั้ง MENU, VOL-, CH+, CH-, VOL+ , OK การเรียงปุ่มก็ดูประหลาดๆไปหน่อย โดยการเอาการเปลี่ยนช่องขึ้นลงมาไว้ตรงกลางส่วนช่องเปลี่ยนระดับเสียงกลับขนาบข้างและสลับ + – อีกต่างหาก
จากการสังเกตพบว่าตัวเซ็นเซอร์รับสัญญาณจากรีโมทนั้นอยู่ลึกลงไปมาก การเปลี่ยนช่องจึงต้องเล็งให้ตรงๆกับหน้ากล่องมากที่สุด หากนอนอยู่บนเตียงก็ต้องยกรีโมทเอียงแล้วเอียงอีกกว่าจะเปลี่ยนช่องได้
สำหรับด้านหลังกล่อง เนื่องจากเป็นรุ่น mini ไม่สามารถดูแบบ HD ได้ จึงมีช่องต่อสัญญาณจำกัดมาก โดยซ้ายสุดจะเป็นช่องต่อกับสายสัญญาณดาวเทียม ถัดมาก็เป็นสาย AV สามสาย ต่อมาก็เป็น port RS-232 ซึ่งผู้ใช้งานทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้ช่องต่อนี้ และขวาสุดจะเป็นสายไฟที่เสียบกับปลั๊กไฟบ้านได้เลย
หันมาดูรีโมทหน้าตาก็โดดเ่นด้วยรูปร่างมนๆ ที่แตกต่างก็เป็นบรรดาปุ่มเขียวๆ นั่นแหละครับที่มีการแยกหมวดหมู่ของช่องรายการไว้เรียบร้อยด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว โดยมีหมวดหมู่คือ GMM, CHOICE,ข่าว การ์ตูน หนัง เพลง กีฬา และ วาไรตี้
ทุกครั้งที่เปิดกล่องก็ต้องเจอกับหน้าจอบู๊ทเครื่องแบบนี้แหละครับ จะมีแถบบาร์วิ่งบอกความก้าวหน้า ระหว่างนั้นก็ชมโฆษณาไปพลางๆ ถ้าไม่อยากรอหน้านี้ก็ไม่ต้องปิดกล่องครับ เวลาไปธุระก็ปิดแค่ทีวีอย่างเดียว ไม่งั้นจะเสียอารมณ์มาก
เพราะว่าพอกล่องบู๊ทเสร็จก็จะโผล่ช่อง 0000 เป็นช่องขายสินค้า ไม่ได้เอาช่องเก่าล่าสุดที่ดูมาแสดงเหมือนกล่องดาวเทียม True เป็นต้น ดังนั้นทุกครั้งที่เปิดกล่องเสร็จก็ต้องเตรียมหารีโมทหรือไปกดปุ่มหน้ากล่องเพื่อจะดูช่องที่เราต้องการทุกครั้งไป
สำหรับการรับชมทีวีปกติแล้ว ก็ให้ความคมชัดในระดับดาวเทียมนั่นแหละครับ คือดูได้ตามอัตภาพของกล่อง ตอนทดสอบใช้จาน Ku-band จะเห็นว่าความแรงสัญญาณจะอยู่ที่ 38% คุณภาพ 66% ก็ยังดูได้ดี ไม่มีกระตุก
สำหรับภาพสุดท้ายก็เป็นไฟแสดงสถานะที่ตัวกล่อง โชว์ให้เห็นไปสีแดงขนาด 3 หลัก เวลาอยู่ในโหมด standby ก็จะโผล่ข้อความ oFF พอเปิดกล่องใหม่ก็จะเป็นดังที่กล่าวข้างต้นแหละครับ
จะว่าไปแล้วกล่องนี้ก็เหมาะสำหรับคนที่มีทีวีหลายเครื่อง และต้องการรับชมรายการทั่วๆไป ไม่ต้องการชมในระบบ HD กับราคาประมาณ 650 บาท (กรกฏา 57) ก็ถือว่าคุ้มค่าแหละครับ บางร้านทำโปรโมชั่นจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 450 – 500 บาทเท่านั้น และที่สำคัญกล่องรุ่นนี้ไม่สามารถโทรไปซื้อรายการเพิ่มเติมได้เหมือนกล่อง GMM รุ่น Z ธรรมดานะครับ
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.