ทีวีดิจิตอล 48 ช่องดูจริงกี่ช่อง
อีกไม่นานเราก็จะได้ดูทีวีระบบดิจิตอลกันแล้วนะครับ ซึ่งนอกจากจะได้ภาพที่คมชัดแล้ว เรายังได้จำนวนช่องที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย แต่จำนวนช่องที่มากขึ้นนั้นท่านคิดว่าจะมีเวลาดูช่องไหนบ้าง และเราดูกันจริงๆแล้วกี่ช่องกันแน่เรามาหาคำตอบกันนะครับ
ก่อนอื่นเราก็คงต้องเท้าความจำนวนช่องกันก่อนนะครับ ทางกสท กำหนดว่าจำนวนช่องทั้งหมดในกลุ่มธุรกิจจะมี 24 ช่องด้วยกันและในหมวดสาธารณะอีก 12 ช่อง และอีก 12 ช่องสุดท้ายก็เป็นในกลุ่มโทรทัศน์ชุมชนซึ่งคงเปิดบริการหลังสุด ทั้งหมวดธุรกิจและหมวดสาธารณะก็คงเริ่มทยอยเปิดบริการตั้งแต่ต้นปี 57 เป็นต้นไปหากเป็นไปตามแผน ดังนั้นเราก็คงได้มีจำนวนช่องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหลังจากนี้ไปจนวันหนึ่งอาจจะครบทั้ง 48 ช่องโน่นแหละครับ
คำถามคือแล้วเราจะดูทีวีกันกี่ช่อง คนทั้งประเทศจะเปิดดูครบทุกช่องหรือไม่ ด้วยสามัญสำนึกแล้วก็คงบอกได้ว่าคนเราคงเปิดดูเฉลี่ยไม่เท่ากันทุกช่องอยู่แล้ว อย่างปัจจุบันมีอยู่ 6 ช่องท่านก็รู้ดีว่าเปิดดูช่องไหนมากที่สุด ช่องไหนที่แว้บไปดูบ้าง และช่องไหนที่ไม่เคยย่างกรายไปเลย
ทั้งนี้เพราะคนเราสนใจรายการอะไรก็จะเปิดหา เมื่อชื่นชอบรายการไหนก็จะติดตาม จนเป็นนิสัยและอาจจะผูกติดกับช่องใดช่องนึงเป็นประจำมากกว่าอีกช่องหนึ่ง ก็เหมือนๆกับเวลาเราออกไปซื้อของก็ไปห้างประจำเพราะรู้ที่ทางดีว่ามีอะไรตรงไหน นานๆถึงจะแวะห้างอื่นซักทีซึ่งไปแต่ละทีก็จะงงๆว่าสินค้าอะไรวางตรงไหน เฉกเดียวกับช่องประจำเราจะรู้ว่ามีรายการอะไรตอนไหน พอหลงไปช่องอื่นหากไม่คุ้นมากก็ไม่รู้ว่ามีรายการอะไรบ้างตอนไหนบ้าง แต่หากไปบ่อยๆก็จะคุ้น
จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมการดูทีวีก็เหมือนกับพฤติกรรมการดำเนินชีวิตทั่วไป แต่หากเรามามองในเชิงตัวเลขก็คงจะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ปัญหาคือสถิติตัวเลขการรับชมทีวีของไทยอาจจะไม่เป็นที่แพร่หลาย ก็เลยขอเอาตัวเลขของอเมริกามาดูกันนะครับ
จากรายงานที่ไม่ยืนยันบอกว่า Nielsen บริษัทสำรวจชื่อดังได้รายงานว่าคนอเมริกันมีช่องโทรทัศที่เปิดดูเป็นประจำเฉลี่ย 18 ช่องด้วยกัน และอีกรายงานหนึ่งที่ไม่ได้อ้างอิงแหล่งที่มาระบุว่ามีช่องทีวีที่เปิดดูประจำ 16 – 20 ช่อง แต่ถ้ามีเด็กเล็กอยู่ด้วยตัวเลขจำนวนช่องจะขยับขึ้นมาที่ 20 – 24 ช่อง โดยผลสำรวจนี้มองที่ครอบครัวเฉลี่ยของคนอเมริกันที่มี 4 คน โดยทั้งครอบครัวจะมีช่องรายการที่เปิดประจำเฉลี่ย 50 ช่องด้วยกัน
หากหันกลับมามองที่ประเทศไทย ตัวเลขของอเมริกันทำให้พอจะคาดเดาได้ว่าคนไทยก็คงไม่แตกต่างนั่นแสดงว่าจำนวนช่องที่คนนิยมก็จะไปกระจุกอยู่กับช่องที่เคยได้รับความนิยมมาตอนที่เป็นทีวีระบบเดิม พอเปลี่ยนมาเป็นทีวีดิจิตอล ประชากรจำนวนมากก็จะยังเป็นแฟนเหนียวแน่นกับช่องเหล่านั้น แต่ช่วงแรกๆคนอาจจะหันมาดูช่องใหม่ๆบ้าง แต่หากไม่มีอะไรตรึงเขาไว้ได้ก็คงจะกลับไปหาช่องเดิมๆ
นั่นแสดงว่าสมรภูมินี้คงต้องมีการแข่งกันดุเดือดมากขึ้นในการแย่งชิงผู้ชม ต่างก็ต้องพยายามเสนอรายการดีๆออกมาแข่งกัน และอย่าคิดว่าทีวีช่องใหม่จะไม่ติดตลาด ประสบการณ์อย่างช่องเนชั่นแชลแนลในอดีตเคยแสดงให้เห็นมาแล้วว่ายังมีผู้ผลิตรายการดีๆอยู่อีกเยอะ แต่ไม่มีโอกาสแทรกเข้ามาเนื่องจากการผูกขาดของตระกูลใหญ่อยู่ไม่กี่ราย การเกิดของทีวีดิจิตอลถือได้ว่าเป็นการปลดแอกผู้บริโภคอย่างเราให้ได้มีโอกาสรับชมสื่อที่มีคุณภาพมากขึ้นนั่นเอง
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.